นึกย้อนไปถึงตอนแรกๆที่มาเกาหลี ตอนนั้นช่างไร้เดียงสาทางด้านภาษาและวัฒนธรรมเกาหลียิ่งนัก เวลาไปซื้อของบรรดาพนักงานขายของในร้านต่างๆ โดยเฉพาะในย่านที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว พอเห็นเราไม่ใช่คนเกาหลี จากที่พูดเจื้อยแจ้ว สีหน้าอ่อนโยน ส่งยิ้มหวานกับลูกค้า สีหน้าของเขาและเธอมักจะเปลี่ยนไปเป็นหน้าแบบนิ่งๆ เฉยๆ และกลายเป็นคนพูดน้อยหรือแทบจะไม่เปล่งเสียงออกมาเลยก็มี ด้วยความเดียงสาอย่างที่บอก ทำให้ตีความได้แบบตื้นๆว่าคนเกาหลีคงไม่ค่อยอยากพูดกับคนต่างชาติ แต่เอาหล่ะ..ยังไงก็ตั้งใจจะวนเวียนอยู่ในประเทศนี้ไปอีกเรื่อยๆ ก็เลยตัดสินใจว่าเราต้องเรียนภาษาเกาหลีให้เร็วที่สุด
ต่อมาแม้จะ เริ่มเรียนภาษาเกาหลี พอลองไปพูดกับคนเกาหลีนอกห้องเรียนจริงๆ เค้าก็ฟังกันไม่ออกอีกว่าเราพูดอะไร แถมเค้าพูดอะไรมาก็ฟังไม่ออกอยู่ดี เวลาที่เราพยายามจะพูดอะไรออกไปสักอย่าง พวกเค้าก็ไม่ค่อยจะพยายามฟังเท่าไหร่ว่าเราต้องการอะไร เราเลยรู้สึกเหมือนเป็นคนพูดไม่รู้เรื่องไปอย่างช่วยไม่ได้ สรุปว่าแม้เริ่มเรียนภาษาเกาหลีแล้วก็ยังไม่สามารถสื่อสารอะไรได้มากนัก และไม่มีความมั่นใจในการพูดกับใครเท่าไหร่ ออกจะเป็นโรคกลัวการพูดกับคนเกาหลีไปเลย อาศัยที่ว่าเราหน้าตาดูกลมกลืนกับคนเกาหลี ถ้าเราไม่พูดก็ไม่มีใครรู้หรอกนะว่าเราเป็นคนต่างชาติ ดังนั้นเวลาไปไหนคนเดียว หิวก็เข้าร้านฟาสต์ฟูด หรือไม่ก็ซื้อขนมปังทาน เพราะซื้อง่ายดี ไม่ต้องพูดอะไรมาก คือว่าพยายามทำทุกวิถ๊ทางที่จะพูดให้น้อยที่สุด ถ้ามีเพื่อนคนเกาหลีอยู่ด้วยก็ให้เค้าเป็นกระบอกเสียงให้แทน บางครั้งก็นึกถามตัวเองว่ากลัวอะไรนักหนา เราก็ฉายเดี๋ยวไปต่างประเทศ ไปต่างเมืองมาเจ็ดย่านน้ำ ไม่เห็นเคยกลัว แต่พอมาเจออยู่ประเทศนี้จะกลัวอะไรหนักหนา (ถามตัวเอง ..แต่ไม่รู้จะตอบตัวเองยังไง)
พอเรียนภาษาเกาหลีระดับ 2 ไปได้ครึ่งเทอม ในวิชาการอ่าน มีบทเรียนเรื่องคนฝรั่งที่มาเกาหลีแล้วเป็นแบบเดียวกับเราเลย ข้อความตอนนึงเขียนว่า
밖에 나가면 사람들이 저에게 말을 걸 것 같이서 땅만 보고 걸었습니다. 처음 며칠 동안은 식당에 가기가 무서워서 집에서 빵만 먹었습니다.
แปลได้ว่า เวลาออกไปข้างนอก เพราะว่าดูเหมือนคนอื่นจะพูดกับเรา เราก็เลยก้มหน้าก้มตา มองแต่พื้น (คนจะได้ไม่ทักเรา) ตอนแรกๆร้านอาหารก็ไม่กล้าไป ทานขนมปังอยู่ที่บ้านเท่านั้นโอ้ว! บทเรียนนั้นอ่านแล้วประทับใจมาก มีคนเป็นแบบเราด้วยนะเนี่ย รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย ตอนสุดท้ายฝรั่งคนนั้นปรับตัวได้ ภาษาเกาหลีก็ดีขึ้น เวลาไปไหนไม่ต้องก้มหน้ามองพื้นดินอีกต่อไป แม้เขาจะยังไม่พูดเก่งแต่ก็ไม่กลัวที่จะสื่่อสาร บทเรียนเรื่องนี้สร้างแรงบันดาลใจให้เรามากที่เดียว โรคกลัวการพูดภาษาเกาหลีค่อยๆหายไป จนถึงทุกวันนี้แม้จะยังไม่เก่งภาษาเกาหลี แต่เราไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว ใครจะเห็นว่าเราเป็นคนต่างชาติก็ช่าง
คุณพูดภาษาไทยไม่ได้ แต่ฉันสิพูดภาษาของคุณได้ แม้จะไม่เก่งก็ตามเหอะ เยี่ยมยอดจะตาย (จริงมั๊ยคะ...ขอเสียงสนับสนุนหน่อยค่ะ)เขียนไว้เมื่อ 20-Aug-2011 ใน www.korean4life.com (version เก่า)
No comments:
Post a Comment